วันอังคารที่ 2 มิถุนายน พ.ศ. 2558

คิดได้ไง เอาซันไลต์ล้างหน้า


คิดได้ไง  เอาซันไลต์ล้างหน้า
หลังโลกออนไลน์แชร์พฤติกรรมล้างหน้าด้วยน้ำยาล้างจาน ‘อ.เจษฎา’ โพสต์เฟสบุ๊คแจงไม่แนะนำให้ใช้ล้างหน้า เพราะมีสารเคมีที่เป็นด่างเข้มข้น

เนื่องด้วยกรณีกระแสฮือฮาในโลกออนไลน์ หลังผู้ใช้งานเว็บไซต์พันทิปรายหนึ่งตั้งกระทู้ ใจความว่า ถามความคิดเห็นพฤติกรรมแฟนหนุ่มที่นำน้ำยาล้างจานมาใช้ล้างหน้า พบว่าทำให้หน้าใส แต่หวั่นว่าจะเป็นอันตรายต่อผิวในระยะยาว ต่อมาชาวโซเชียลต่างเห็นว่าอาจทำให้ผิวแห้ง บางส่วนเผยว่าเคยนำน้ำยาล้างจานมาล้างหน้าเช่นกัน
จากนั้น รศ.ดร.เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ อาจารย์ประจำภาควิชาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้โพสต์เฟสบุ๊คส่วนตัวถึงกรณีดังกล่าว ระบุว่า ‘เอาซันไลต์ล้างหน้า ขึ้นอยู่กับความบอบบางของผิวหน้าแต่ละคน ไม่แนะนำให้ใช้ครับ’ จริงๆ เรื่องทำนองเคยมีมาก่อนแล้ว ปีก่อนก็มีเป็นคลิปออกมาเลย และก็ได้อธิบายไปแล้วว่า พวกน้ำยาล้างจานนี้มันก็เป็นสารซักล้างแบบหนึ่ง จะเอามาใช้ล้างหน้า ก็คงไม่ได้เป็นพิษ เป็นอันตรายเฉียบพลันแต่อย่างไร
โดย น้ำยาล้างจานที่ขายอยู่นั้น มักจะเป็นสูตรเข้มข้น ของสารซักล้างหรือสารลดแรงตึงผิวพวก Sodium Lauryl Ether Sulfate ( SLES ) ซึ่งปรกติก็ควรละลายน้ำให้เจือจางก่อนจะใช้ เช่น ละลายน้ำได้ถึง 20 เท่าตามคำแนะนำปรกติ ถ้าเอามาใช้ล้างจานทั้งๆ ที่มันเข้มข้นก็จะทำให้ผิวระคายเคืองได้
ทั้งนี้ บางคนอาจจะเกิดอาการผิวแห้งเกิน ไปจนถึงกับแพ้ ผิวหนังลอกได้ (ถ้าจะให้แพ้น้อยลง ควรเลือกยี่ห้อที่มีสาร Cocamidopropyl betaine แทน SLES) ทีนี้ ถ้าเอาไปใช้ล้างหน้า ซึ่งผิวหน้านั้นบอบบางกว่ามือมาก ก็มีโอกาสจะระคายเคืองได้ง่าย สารต่างๆ ในน้ำยาล้างจานก็ไม่ได้ผ่านการทดสอบแบบพวกโฟมล้างหน้าว่าใช้แล้วจะเป็นสิวแพ้ง่ายหรือเปล่า ดังนั้นส่วนตัวผมจึงไม่ส่งเสริมให้ใช้ครับ
ล่าสุด คุุณหมอจาก สถาบันโรคผิวหนัง กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข ก็ให้ความเห็นตรงกันว่าไม่เหมาะจะนำมาใช้ล้างหน้า (ดูข่าวไทยรัฐได้ที่ http://www.thairath.co.th/content/502259) ที่คิดว่าใช้แล้วหน้าใสขึ้น ขาวขึ้น ก็เพราะว่าน้ำยามันกัดผิวหน้าไปแล้ว แถมถ้าเข้าตา ก็อาจจะเป็นอันตรายต่อดวงตาได้อีกครับ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น